หน่วยรบพิเศษในโลกนี้เกิดขึ้นมานานแล้ว โดยในสมัยก่อนจะมีการฝึกกองกำลังพิเศษไว้เพื่อเป็นองค์รักษ์ของพระมหากษัตริย์ และบุคคลสำคัญทั้งในเอเชีย และยุโรป ซึ่งผู้ที่ได้รับคัดเลือกจะถูกฝึกอย่างหนัก จนเชี่ยวชาญการรบเป็นพิเศษ แต่ถ้าจะนับถึงหน่วยรบในรูปแบบของการรบพิเศษที่เป็นต้นกำเนิดของการรบพิเศษปัจจุบันแล้วต้องนึกถึงอังกฤษ ฝรั่งเศสและอเมริกา โดยอังกฤษเป็นประเทศแรก ๆ ที่พัฒนาหน่วยรบให้มีทักษะการรบที่แตกต่างจากทหารโดยทั่วไป ใช้การรบที่ให้ทหารมีความคล่องตัวสูง สามารถพรางตัวเข้ากับภูมิประเทศ การโจมตีฉาบฉวย การใช้กับดัก โดยยุคแรก ๆ ที่ทำให้หน่วยรบพิเศษมีชื่อเสียงก็คือสงครามโลกครั้งที่ 2 และต่อมาก็คือสงครามเวียดนาม
สงครามโลกครั้งที่ 2 มีหน่วยรบพิเศษถือกำเนิดขึ้นหลายหน่วย และสร้างผลงานอันมีชื่อเสียงไว้อีกหลายครั้งโดยอเมริกามีหน่วยพลร่ม(Airborne) เข้าก่อวินาศกรรมทำลายแนวหลังข้าศึกที่หาดนอร์มังดี ในวันดีเดย์(6 มิถุนายน 2487) ซึ่งต่อมาเราก็รู้จักในนามพลร่มที่ 101 และ พลร่มที่ 82 และยังมีมนุษย์กบ( Frogman )เข้าสำรวจและทำลายทุ่นระเบิดหน้าหาดเพื่อเปิดทางให้เรือยกพลขึ้นบก โดยภายหลังได้พัฒนาเป็นหน่วย UDT หรือ SEAL รวมทั้งส่งหน่วยแรนเจอร์( Ranger )เข้าตีบริเวณชายหาดอีกด้วย ส่วนอังกฤษก็ส่งทหารหน่วยคอมมานโด( British Royal Marine Commandos )เข้ามาร่วมรบในครั้งนี้ ซึ่งทางฝ่ายเยอรมันเองก็มีหน่วยทหารรบพิเศษที่เรียกสั้น ๆ ว่า SS ที่ทำการรบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลงได้มีหน่วยรบพิเศษถือกำเนิดขึ้นมากมายที่ถูกพัฒนาขึ้นจนเป็นกำลังรบหลัก เพื่อใช้ในการรบในยุทธภูมิต่าง ๆ หลายครั้ง แต่หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สงบลงได้ไม่นานก็เริ่มมีผู้ก่อการร้ายเกิดขึ้นในหลายประเทศ มาทั้งในรูปแบบแกงค์โจร ยากูซ่า หรือขบวนการแบ่งแยกดินแดน จึงมีการปรับหน่วยรบพิเศษขึ้นมาเพื่อปราบปรามและทำการรบกับกองกำลังเหล่านี้ หน่วยรบพิเศษจึงถูกปรับรูปแบบให้พัฒนาเพื่อต่อต้านการก่อการร้ายทุกรูปแบบ
สงครามเวียดนามเหล่าชาติตะวันตกทั้งหลายได้รู้ซึ้งถึงยุทธวิธีการรบที่ไร้รูปแบบของทหารเวียดกง กองกำลังจำนวนมากถูกส่งลงไปเพื่อจัดการกับทหารเวียดกงแต่ก็ไม่ค่อยประสบผลสำเร็จนัก เพราะถ้าจะบอกว่ายุทธวิธีของทหารเวียดกงนั้นก็เป็นวิธีการรบแบบรบพิเศษก็คงไม่ผิดนัก เพราะทหารเวียดกงนั้นทำการรบแบบกองโจร ตีฉาบฉวย ใช้กับดัก ซุ่มโจมตี และระเบิดพลีชีพ โดยหลังจากสงครามเวียดนามจบลงทำให้สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศสและพันธมิตรได้รับบทเรียนราคาแพงของการรบพิเศษ
ปัจจุบันหน่วยรบพิเศษของประเทศมหาอำนาจเข้ามามีบทบาทสำคัญในการรบ และการต่อต้านการก่อการร้ายเป็นอย่างมาก โดยอเมริกาเองมีหน่วยรบที่มีชื่ออยู่หลายหน่วยเช่น UDT/SEAL (Underwater Demolition / Sea-Air-LAnd Team: USMC) , US Army Specail Force (Green Berets), Ranger, Delta Force และ Airborn ส่วนอังกฤษก็มีหน่วย SAS (The British Special Air Service Regiment) และเยอรมันมีหน่วย GSG
เรื่องราวของหน่วยรบพิเศษจำนวนมากถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนต์ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยคอมมานโดหน่วยรบพิเศษที่จู่โจมอย่างรวดเร็ว(Comandos), ซีลหน่วยทำลายและจู่โจมใต้น้ำ (SEAL), รีคอนหน่วยลาดตระเวนทางน้ำและชายฝั่ง(RECON), แรนเจอร์ทหารราบรบพิเศษผู้ห้าวหาญบุกตะลุยไปข้างหน้า(RANGER), สไนเปอร์หรือพลซุ่มยิงผู้ปลิดชีพข้าศึกด้วยความเฉียบขาดและรวดเร็ว(Sniper), พลร่มหน่วยรบที่แทรกซึมไปทุกพื้นที่(Airborn)
ปัจจุบันหน่วยรบพิเศษของประเทศมหาอำนาจเข้ามามีบทบาทสำคัญในการรบ และการต่อต้านการก่อการร้ายเป็นอย่างมาก โดยอเมริกาเองมีหน่วยรบที่มีชื่ออยู่หลายหน่วยเช่น UDT/SEAL (Underwater Demolition / Sea-Air-LAnd Team: USMC) , US Army Specail Force (Green Berets), Ranger, Delta Force และ Airborn ส่วนอังกฤษก็มีหน่วย SAS (The British Special Air Service Regiment) และเยอรมันมีหน่วย GSG
เรื่องราวของหน่วยรบพิเศษจำนวนมากถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนต์ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยคอมมานโดหน่วยรบพิเศษที่จู่โจมอย่างรวดเร็ว(Comandos), ซีลหน่วยทำลายและจู่โจมใต้น้ำ (SEAL), รีคอนหน่วยลาดตระเวนทางน้ำและชายฝั่ง (RECON), แรนเจอร์ทหารราบรบพิเศษผู้ห้าวหาญบุกตะลุยไปข้างหน้า (RANGER), สไนเปอร์หรือพลซุ่มยิงผู้ปลิดชีพข้าศึกด้วยความเฉียบขาดและรวดเร็ว (Sniper), พลร่มหน่วยรบที่แทรกซึมไปทุกพื้นที่ (Airborn)
หน่วยรบพิเศษของไทย เกิดขึ้นโดยกระทรวงกลาโหมได้รับความช่วยเหลือจากอเมริกา โดยมีการประชุมหารือกันแล้วเห็นว่ากองทัพเรือควรเป็นผู้รับผิดชอบในการฝึกหน่วยสงครามพิเศษ (ปี 2495) และต่อมากองทัพเรือได้ส่งทหารจำนวนหนึ่งไปฝึกหลักสูตร UDT/SEAL โดยใช้เวลาประมาณ 60 วัน (ปี 2496) จนกระทั่งปี 2499 จึงได้มีการจัดตั้งหลักสูตรการฝึกและตั้งหน่วยทำลายใต้น้ำขึ้น และได้พัฒนาจนเป็นหน่วยสงครามพิเศษของกองทัพเรือในเวลาต่อมา จึงถือได้ว่ารบพิเศษหน่วยแรกของกองทัพไทยได้ถูกจัดตั้งที่กองทัพเรือ
หน่วย SEAL ได้ชื่อว่าเป็นหน่วยที่ถูกฝึกหนักที่สุดในบรรดาหน่วยรบพิเศษด้วยกันเองของทุกเหล่าทัพ เหตุผลก็คือภารกิจที่หน่วย SEAL ได้รับมักจะอันตรายอย่างที่สุดและถูกกดดันทั้งร่างกายและจิตใจมากที่สุดเสมอ
การฝึกของหน่วย SEAL จะกินเวลานานที่สุดในบรรดาหน่วยรบพิเศษทั่ว ๆ ไป คือกินเวลา ราว ๆ 8 - 11 เดือน ตามแต่เงื่อนไขของการฝึก
ส่วนใหญ่แล้ว การฝึกของหน่วย SEAL จะเน้นความแข็งแกร่งของจิดใจ ซึ่งนักเรียนนักทำลายใต้น้ำจู่โจม (นทต.) จะถูกฝึกให้อดทนต่อแรงกดดันต่าง ๆ จากครูฝึกตลอดเวลา และถูกฝึกให้ปฏิบัติภารกิจที่บางทีแทบไม่ได้กิน ไม่ได้นอนเลย
การฝึกของหน่วย SEAL จะกินเวลานานที่สุดในบรรดาหน่วยรบพิเศษทั่ว ๆ ไป คือกินเวลา ราว ๆ 8 - 11 เดือน ตามแต่เงื่อนไขของการฝึก
ส่วนใหญ่แล้ว การฝึกของหน่วย SEAL จะเน้นความแข็งแกร่งของจิดใจ ซึ่งนักเรียนนักทำลายใต้น้ำจู่โจม (นทต.) จะถูกฝึกให้อดทนต่อแรงกดดันต่าง ๆ จากครูฝึกตลอดเวลา และถูกฝึกให้ปฏิบัติภารกิจที่บางทีแทบไม่ได้กิน ไม่ได้นอนเลย
เมื่อพูดถึงการฝึกของหน่วย SEAL ทุกคนก็ต้องนึกถึง "สัปดาห์นรก" หรือ "Hell Week" ซึ่งทุกคนต้องผ่าน..ถ้าไม่ถอดใจลาออกเสียก่อน
สัปดาห์นรกจะเป็นการฝึก 5 วันต่อเนื่อง 120 ชั่วโมง โดยไม่มีการหยุดพัก ไม่มีการเข้านอน ไม่มีการนั่งพักผ่อน ตลอดเวลา นทต. ต้องอยู่กับท่อนซุง ไม้พาย เสื้อชูชีพ และรับคำสั่งโหด ๆ จากครูฝึกที่เปลี่ยนกันมาฝึกทุกวัน วันละ 3 ชุด ชุดละ 8 ชั่วโมง
กฏการตกของสัปดาห์นรกมี 2 ข้อ
1. เมื่อนทต. ตีระฆังลาออก
2. เมื่อนทต. ต้องพักฝึกเกิน 1 ชั่วโมง
แต่โดยมากแล้ว นทต. จะไม่ค่อยได้มีโอกาสได้ตีระฆังลาออกสักเท่าไหร่ เพราะส่วนมากการฝึกจะอยู่ห่างจากระฆังเสมอ ซึ่งก็อาจจะเป็นกุศโลบายอย่างหนึ่งที่ต้องการให้นทต.จบกันมาก ๆ เพราะหลังจากสัปดาห์นรกแล้วจะไม่สามารถลาออกได้
สัปดาห์นรกของ US Navy SEAL คือสัปดาห์ที่ 13 ส่วนสัปดาห์นรกของ Royal Thai Navy SEAL (RTN) คือสัปดาห์ที่ 11
สัปดาห์นรกจะเป็นการฝึก 5 วันต่อเนื่อง 120 ชั่วโมง โดยไม่มีการหยุดพัก ไม่มีการเข้านอน ไม่มีการนั่งพักผ่อน ตลอดเวลา นทต. ต้องอยู่กับท่อนซุง ไม้พาย เสื้อชูชีพ และรับคำสั่งโหด ๆ จากครูฝึกที่เปลี่ยนกันมาฝึกทุกวัน วันละ 3 ชุด ชุดละ 8 ชั่วโมง
กฏการตกของสัปดาห์นรกมี 2 ข้อ
1. เมื่อนทต. ตีระฆังลาออก
2. เมื่อนทต. ต้องพักฝึกเกิน 1 ชั่วโมง
แต่โดยมากแล้ว นทต. จะไม่ค่อยได้มีโอกาสได้ตีระฆังลาออกสักเท่าไหร่ เพราะส่วนมากการฝึกจะอยู่ห่างจากระฆังเสมอ ซึ่งก็อาจจะเป็นกุศโลบายอย่างหนึ่งที่ต้องการให้นทต.จบกันมาก ๆ เพราะหลังจากสัปดาห์นรกแล้วจะไม่สามารถลาออกได้
สัปดาห์นรกของ US Navy SEAL คือสัปดาห์ที่ 13 ส่วนสัปดาห์นรกของ Royal Thai Navy SEAL (RTN) คือสัปดาห์ที่ 11
ในสัปดาห์นรก (Hell Week) มีอะไรบ้าง
ครูฝึกมักเปิดสัปดาห์นรกด้วยการจู่โจมนทต. ซึ่งในช่วงการฝึกนั้นจะมีปัญหาแปลก ๆ ให้นทต.ได้ทรมานกันเล่น ๆ เช่นปัญหากระทะทองเย็น (แช่น้ำทะเลใส่น้ำแข็ง) หรือปัญหาผี (การเฝ้าโลงศพในคืนมืดมิดคนเดียว)
ตลอดการฝึก นทต.จะต้องแบกเรือยางหนักเป็นร้อยกิโล ถือไม้พาย ถือท่อนซุง ทำภารกิจต่าง ๆ ที่ได้รับมาตลอดเวลา ไม่มีการพัก ไม่มีการนอน เพราะจะละเมิดกฏเหล็กคือห้ามพักฝึกเกินกว่า 1 ชั่วโมง
ในช่วงท้าย ๆ ของการฝึก นทต.มันจะอยู่ในสภาพซอมบี้ สติมักจะไม่ค่อยมี เพราะแทบไม่ได้พักเลย หลังจากการฝึกนทต.จำเป็นต้องพักผ่อนมาก ๆ และรัปประทานอาหารอ่อน ๆ ให้ร่างกายได้ฟื้นตัวสักพัก ก่อนกลับมาลุยต่อ
แต่ว่า สัปดาห์นรก ก็ไม่ใช่สัปดาห์ที่หนักที่สุดแต่ประการใด เพียงแต่เป็นสัปดาห์แรกที่นทต.จะต้องเผชิญแรงกดดันมหาศาลที่ไม่เคยเผชิญมาก่อน เพื่อเตรียมตัวไปสู้กับแรงกดดันที่หนักกว่านี้ในการฝึกที่เหลือ
ตลอดการฝึก นทต.จะต้องแบกเรือยางหนักเป็นร้อยกิโล ถือไม้พาย ถือท่อนซุง ทำภารกิจต่าง ๆ ที่ได้รับมาตลอดเวลา ไม่มีการพัก ไม่มีการนอน เพราะจะละเมิดกฏเหล็กคือห้ามพักฝึกเกินกว่า 1 ชั่วโมง
ในช่วงท้าย ๆ ของการฝึก นทต.มันจะอยู่ในสภาพซอมบี้ สติมักจะไม่ค่อยมี เพราะแทบไม่ได้พักเลย หลังจากการฝึกนทต.จำเป็นต้องพักผ่อนมาก ๆ และรัปประทานอาหารอ่อน ๆ ให้ร่างกายได้ฟื้นตัวสักพัก ก่อนกลับมาลุยต่อ
แต่ว่า สัปดาห์นรก ก็ไม่ใช่สัปดาห์ที่หนักที่สุดแต่ประการใด เพียงแต่เป็นสัปดาห์แรกที่นทต.จะต้องเผชิญแรงกดดันมหาศาลที่ไม่เคยเผชิญมาก่อน เพื่อเตรียมตัวไปสู้กับแรงกดดันที่หนักกว่านี้ในการฝึกที่เหลือ
กลังจากสัปดาห์นรกแล้ว ก็จะเป็นการฝึกยุทธวิธีต่าง ๆ ที่หน่วย SEAL จำเป็นต้องใช้ เช่นวิชาวัตถุระเบิด วิชาการดำน้ำทางยุทธวิธี การฝึกภาคทะเล การฝึกภาคป่า การฝึกดำรงชีวิต (ปล่อยเกาะ 2 วัน หาของกินเอาเอง) รวมถึงการฝึกสุดท้ายคือปัญหา 72 ชัวโมง ซึ่งนทต.จะถูกจับเป็นเชลยและผ่านกระบวนการรีดข่าวสุดโหด สุดท้ายกับปัญหา 120 ชั่วโมงหลังจากถูกจับเป็นเชลยแล้ว
หน่วยซีลของไทยประกอบไปด้วยข้าราชการของกองทัพเรือทั้งชั้นประทวนและชั้นสัญญาบัตรที่สมัครใจเข้ามารับการฝึก โดยหลังจากการฝึกก็จะประจำอยู่ที่หน่วยบัญญาการสงครามพิเศษทางเรือ ส่วนผู้ที่รับการฝึกจากเหล่าทัพอื่นก็จะกลับไปหน่วยต้นสังกัดของตน
ภารกิจของ SEAL ไทยเหมือน ๆ กับหน่วย SEAL ทั่วโลก ซึ่งตอนนี้พวกเขาก็อาจจะกำลังปฏิบัติภารกิจอยู่ในภาคใต้ก็เป็นได้
ภารกิจของ SEAL ไทยเหมือน ๆ กับหน่วย SEAL ทั่วโลก ซึ่งตอนนี้พวกเขาก็อาจจะกำลังปฏิบัติภารกิจอยู่ในภาคใต้ก็เป็นได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น